40 ท่าลดสัดส่วน ท่าที่ 37

ท่าบริหารนี้จะช่วยให้สะโพก ต้นขากระชับและแข็งแรง

ท่าเตรียม ยืนตัวตรงแยกขาเล็กน้อย งอเข่าขวา

ขึ้นมาที่ลำตัวตรงๆ ใช้มือประสานที่เข่าดึงให้เข้า

มาชิดที่บริเวณอกโดยที่ลำตัวตั้งตรง ทำค้างไว้ 10 วินาที

จากนั้นสลับข้างทำแบบเดิม ออกกำลังให้ได้ข้างละ 10 ครั้ง

ข้อมูลจาก : เคล็ดลดสัดส่วน 40 ท่าฟิตหุ่นด่วนทันใจ, เอกธิดา, สำนักพิมพ์ไพลิน

40 ท่าลดสัดส่วน ท่าที่ 36

ท่านี้จะช่วยให้หน้าอกกระชับ เต่งตึงไม่หย่อนคล้อยเหลวไม่ได้ทรง

ท่าเตรียม นอนหงายราบบนพื้นเรียบ ชันเข่าให้เท้าแยกกันเล็กน้อย

ถือดัมเบล 1.5 กิโลกรัม ไว้ทั้งสองข้าง ยกแขนตั้งข้อศอกไว้ที่พื้น

ให้ไหล่ทั้งสองอยู่ในแนวเป็นเส้นเดียวกัน จากนั้นยกแขนหงาย

ไปที่หัวไหล่ด้านบน แล้วยกกลับขึ้นที่เดิม ทำต่อเนื่องประมาณ

5 ครั้งต่อเซต และควรทำให้ได้วันละ 3 เซต

ข้อมูลจาก : เคล็ดลดสัดส่วน 40 ท่าฟิตหุ่นด่วนทันใจ, เอกธิดา, สำนักพิมพ์ไพลิน

40 ท่าลดสัดส่วน ท่าที่ 35

ท่านี้บริหารกล้ามเนื้ออกให้กระชับ จะช่วยให้หน้าอกดูสวยอยู่ทรงได้รูปสมใจ

ท่าเตรียม นอนหงายราบบนพื้นเรียบยกเข่าชันขึ้นมาให้ปลายเท้าชิดกัน

ถือดัมเบลขนาด 1.5 กิโลกรัม ไว้ทั้งสองข้าง กางแขนออกด้านข้างให้สุด

แล้วหุบแขนเข้าหากันพร้อมกับยืดแขนให้สุดขึ้นข้างบน ชูให้สุดแขน

ตรงระดับหน้าอก ทำค้างไว้สัก 5 วินาที แล้วกางแขนออกยกขึ้น

ทำซ้ำให้ได้ 10-15 ครั้งต่อเซต และควรทำให้ได้ 3 เซตต่อครั้ง

ข้อมูลจาก : เคล็ดลดสัดส่วน 40 ท่าฟิตหุ่นด่วนทันใจ, เอกธิดา, สำนักพิมพ์ไพลิน

40 ท่าลดสัดส่วน ท่าที่ 34

ท่านี้ช่วยให้ต้นแขนไม่นิ่มหย่อนยาน ท่านี้ควรมีบาร์โหนเป็นอุปกรณ์ช่วย

ท่าเตรียม ยืนตรงใช้มือทั้ง 2 ข้างจับบาร์ที่เหนือศีรษะ ใช้แรงที่แขน

ข้อมือ ดึงตัวขึ้นค้างไว้สักพัก จากนั้นลดแขนลดตัวลง

พยายามดึงให้ได้ 5 ครั้งต่อเซต ควรทำประมาณ 3 เซต

ข้อมูลจาก : เคล็ดลดสัดส่วน 40 ท่าฟิตหุ่นด่วนทันใจ, เอกธิดา, สำนักพิมพ์ไพลิน

40 ท่าลดสัดส่วน ท่าที่ 33

ท่านี้ช่วยให้มีแขนเรียวงามดูกระชับสุขภาพดี ไม่มีไขมันส่วนเกิน

ท่าเตรียม ตั้งท่าคลานสี่ขา ใช้มือขวาแตะเข่าซ้าย และชูขึ้นเหยียด

ออกไปด้านบนให้ตึงที่สุด ยกขึ้น-ลงต่อเนื่อง 20 ครั้ง จากนั้น

เปลี่ยนข้างใช้มือซ้ายทำแบบเดียวกัน ควรทำให้ได้ 3 เซต

ข้อมูลจาก : เคล็ดลดสัดส่วน 40 ท่าฟิตหุ่นด่วนทันใจ, เอกธิดา, สำนักพิมพ์ไพลิน

40 ท่าลดสัดส่วน ท่าที่ 32

ท่านี้จะช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณข้างลำตัว และหน้าท้องดูเฟิร์มแข็งแรงขึ้น

ท่าเตรียม นอนหงายบนพื้นราบ และชันเข่าขึ้นทั้งสองข้างดึงเข่าทั้งคู่

ให้งอเข้ามาติดลำตัว บิดสะโพกและลำตัวไปด้านขวา และพลิกกลับไปด้านซ้าย

ทำสลับทีละครั้งแล้วผ่อนยืดเข่าออกตั้งชัน จากนั้นค่อยเริ่มทำใหม่ ซ้ำให้ได้ 10 ครั้ง

ข้อมูลจาก : เคล็ดลดสัดส่วน 40 ท่าฟิตหุ่นด่วนทันใจ, เอกธิดา, สำนักพิมพ์ไพลิน

40 ท่าลดสัดส่วน ท่าที่ 31

การบริหารท่านี้จะช่วยสลายไขมัน ส่วนเกินบริเวณข้างลำตัว

หาไม้กระบองมาถือด้วยมือ 2 ข้าง ชูไว้เหนือศีรษะ

ยืนตัวตรง แยกขาออกเล็กน้อย จากนั้นเอนตัวไปซ้าย-ขวา

สลับกันไปอย่างต่อเนื่องอย่าให้แขนงอ นริหารให้ได้ 30-50 ครั้ง

ข้อมูลจาก : เคล็ดลดสัดส่วน 40 ท่าฟิตหุ่นด่วนทันใจ, เอกธิดา, สำนักพิมพ์ไพลิน

40 ท่าลดสัดส่วน ท่าที่ 30

ท่าซิต-อัพจะช่วยกระชับหน้าท้อง และเพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ

นอนหงายราบกับพื้นเรียบ แล้วชันเข่าทั้งสองข้าง ประสานมือไว้

ที่ด้านหลังศีรษะ เกร็งหน้าท้อง ยกไหล่และลำตัวขึ้นเพียงเล็กน้อย

พอให้พ้นจากพื้น แล้วค้างไว้ 10 วินาที จากนั้นค่อยๆ คลายและ

ลดลำตัวราบลง บริหารซ้ำเซตละ 10-15 ครั้ง ให้ได้ครบ 3 เซต

ข้อมูลจาก : เคล็ดลดสัดส่วน 40 ท่าฟิตหุ่นด่วนทันใจ, เอกธิดา, สำนักพิมพ์ไพลิน

40 ท่าลดสัดส่วน ท่าที่ 29

ใครก็ตามที่มีรอบเอวที่หนา เพราะพุงย้อยน่ารำคาญ ควรจะกำจัด

มันทิ้งด้วย การบริหารท่านี้ ท่าเตรียม นอนหงายบนพื้นราบ

พร้อมชันเข่า ขึ้นทั้งสองข้าง เกร็งหน้าท้อง งอเข่าทั้งคู่ดันเข้าหาหน้าอก

จากนั้นดึงเข่าออกเหยียดตรง ทำสลับอย่างต่อเนื่องประมาณ 10-12 ครั้ง

ข้อมูลจาก : เคล็ดลดสัดส่วน 40 ท่าฟิตหุ่นด่วนทันใจ, เอกธิดา, สำนักพิมพ์ไพลิน

40 ท่าลดสัดส่วน ท่าที่ 28

ท่านี้จะทำให้คุณดูมีกล้ามท้องเล็กๆ ที่กระชับดูดีได้

ท่าเตรียม นั่งคุกเข่าไม่ต้องชันเท้าหลังตรง

ยกแขนทั้งสองข้าง ชูขึ้นเหนือศีรษะ

ค่อยๆ โน้มตัวไปด้านหลังให้ตึง

ได้มากที่สุด แล้วค้างไว้ 10 วินาที

เมื่อครบ 10 วินาที ดึงตัวขึ้น แล้วทำซ้ำอีก 15 ครั้ง

ข้อมูลจาก : เคล็ดลดสัดส่วน 40 ท่าฟิตหุ่นด่วนทันใจ, เอกธิดา, สำนักพิมพ์ไพลิน

40 ท่าลดสัดส่วน ท่าที่ 27

ท่านี้ช่วยในเรื่องระบบทางเดินอาหาร ทำให้การเผาผลาญพลังงานบริเวณ

หน้าท้องมีประสิทธิภาพเต็มเปี่ยม และไม่หลงเหลือไขมันสะสมบริเวณหน้าท้อง

ยืนตัวตรง แยกขาออกจากกันเล็กน้อย หายใจเข้าให้สุด แล้วแขม่วท้อง

เกร็งค้างไว้พร้อมกับแกว่งแขนขึ้นลง 30 ครั้ง ต่อเนื่อง

เมื่อครบแล้วผ่อนการเกร็งหน้าท้อง แล้วเริ่มบริหารซ้ำใหม่ ทำสัก 10-12 ครั้ง

ข้อมูลจาก : เคล็ดลดสัดส่วน 40 ท่าฟิตหุ่นด่วนทันใจ, เอกธิดา, สำนักพิมพ์ไพลิน

40 ท่าลดสัดส่วน ท่าที่ 26

ท่านี้ช่วยกระชับหน้าท้องให้เรียบตึง ไขมันส่วนเกินที่เคยกังวลก็หายไป

หาไม้ด้ามยาวคล้ายกระบองมา 1 อันเตรียมไว้ถือกระบองด้วยมือ 2 ข้าง

ชูขึ้นเหนือศีรษะ ยืนตัวตรง แยกขาออกเพียงเล็กน้อย จากนั้นเอนตัวช้าๆ

ไปที่ด้านหลังให้มากที่สุดโดยไม่งอแขน เมื่อตึงสุดแล้วให้ค้างไว้ 10 วินาที

เสร็จแล้วค่อยๆ ดึงตัวกลับ บริหารท่านี้ให้ได้ 10-15 ครั้ง

ข้อมูลจาก : เคล็ดลดสัดส่วน 40 ท่าฟิตหุ่นด่วนทันใจ, เอกธิดา, สำนักพิมพ์ไพลิน

40 ท่าลดสัดส่วน ท่าที่ 25

ท่านี้จะช่วยให้กล้ามเนื้อหน้าท้อง แข็งแรงตึงแบนราบได้เป็นอย่างดี

ท่าเตรียม นอนคว่ำหน้าบนพื้นเรียบวางแขนเป็นตัว v ใต้ลำตัว

กำมือเข้าหากันแล้วยกตัวขึ้น ใช้ปลายเท้ายันที่พื้น(ลักษณะท่าคล้ายการวิดพื้น)

แขม่วและเกร็งหน้าทัอง ยกสะโพกขึ้นค้างไว้ให้ได้ 20 วินาที แล้วค่อยๆ

คลายลง ทำซ้ำให้ได้ 20 ครั้ง

ข้อมูลจาก : เคล็ดลดสัดส่วน 40 ท่าฟิตหุ่นด่วนทันใจ, เอกธิดา, สำนักพิมพ์ไพลิน

40 ท่าลดสัดส่วน ท่าที่ 24

ท่านี้จะช่วยให้ไขมันสะสมที่เรียวขา ถูกเผาผลาญให้หมดไป

และยังช่วยให้กล้ามเนื้อขาแข็งแรงขึ้นอีกด้วย หาเก้าอี้มาตั้งเตรียมไว้ 1 ตัว

ยืนตัวตรงแยกขาออกพอประมาณ แล้วหันหน้าเข้าหาพนักของเก้าอี้

เอามือทั้งสองข้างจับพนักไว้ เขย่งปลายเท้าทั้งสองพร้อมทั้งย่อตัว ขึ้นลง ทำต่อเนื่อง 10 ครั้ง

ข้อมูลจาก : เคล็ดลดสัดส่วน 40 ท่าฟิตหุ่นด่วนทันใจ, เอกธิดา, สำนักพิมพ์ไพลิน

40 ท่าลดสัดส่วน ท่าที่ 23

ท่านี้ช่วยให้กล้ามเนื้อน่อง และฝ่าเท้า

แข็งแรงขึ้น พร้อมทั้งยังดูเฟิร์มอีกด้วย

ท่าเตรียม นั่งบนเก้าอี้ให้เท้าทั้งสองข้างแนบกับพื้น

เกร็งนิ้วเท้าทั้งหมด จิกพื้นให้แรงๆค้างไว้ 10 วินาที

เสร็จแล้วค่อยๆ ผ่อนการเกร็ง บริหารซ้ำ 10 เที่ยว

ข้อมูลจาก : เคล็ดลดสัดส่วน 40 ท่าฟิตหุ่นด่วนทันใจ, เอกธิดา, สำนักพิมพ์ไพลิน

40 ท่าลดสัดส่วน ท่าที่ 22

ท่านี้จะช่วยให้เลือดไหลเวียนที่ขาสะดวกขึ้น ป้องกันอาการเส้นเลือดขอด

ที่ทำให้ขาดูไม่สวยได้เป็นอย่างดี ท่าเตรียม นอนคว่ำราบกับพื้น

งอเข่าตั้งฉากกับพื้นทั้งสองข้าง กระดกเท้าขึ้นลงเร็วๆ 20 ครั้ง

จากนั้นบิดข้อเท้าทั้งคู่ไปทางซ้ายและขวา 20 ครั้ง หมุนข้อเท้าวนทางขวา

และซ้ายตามลำดับให้วนข้างละ 20 รอบ ทำทั้งหมดให้ได้ 3-5 รอบ

ข้อมูลจาก : เคล็ดลดสัดส่วน 40 ท่าฟิตหุ่นด่วนทันใจ, เอกธิดา, สำนักพิมพ์ไพลิน

40 ท่าลดสัดส่วน ท่าที่ 21

การบริหารท่านี้จะช่วยให้ไขมันบริเวณขาถูกเผาผลาญ กลายเป็นกล้ามเื้นื้อ

ช่วยทำให้ขาดูเฟิร์มแข็งแรงได้

ยืนตัวตรง แยกขาออกพอประมาณ เขย่งเท้าทั้งสองข้าง พร้อมทั้งยกขาซ้าย

และแขนซ้ายออกไปด้านข้าง เกร็งให้ตึงค้างไว้สัก 5 วินาที

ลดขาและแขนซ้ายลงเข้าที่ และบริหารซ้ำช้าๆ ที่ข้างเดิมให้ได้ 10-12 ครั้ง

เสร็จครบจำนวนของข้างซ้ายแล้ว ก็เปลี่ยนมาบริหารแบบเดียวกันที่ข้างขวา

ข้อมูลจาก : เคล็ดลดสัดส่วน 40 ท่าฟิตหุ่นด่วนทันใจ, เอกธิดา, สำนักพิมพ์ไพลิน

40 ท่าลดสัดส่วน ท่าที่ 20

ท่าบริหารเพื่อขาเรียวงามอย่างที่คุณปราถนา ต้นขากระชับได้รูปร่าง

ท่าบริหารท่านี้จะช่วยให้กล้ามเนื้อกระชับ ไขมันบริเวณน่องก็จะถูกเผาผลาญไปจำนวนมาก

ยืนตัวตั้งตรง หันหลังให้ชิดกำแพงแล้วแยกขาออกสักเล็กน้อย

เขย่งปลายเท้า ขึ้นลงต่อเนื่อง 15 ครั้ง ต่อ 1 เซต

อย่างน้อยควรบริหารให้ได้สัก 3 เซต ต่อ 1 วัน

ข้อมูลจาก : เคล็ดลดสัดส่วน 40 ท่าฟิตหุ่นด่วนทันใจ, เอกธิดา, สำนักพิมพ์ไพลิน

40 ท่าลดสัดส่วน ท่าที่ 19

ท่านี้จะช่วยให้สะโพกกระชับและมี

ความแข็งแรง แต่ไม่เหมาะกับผู้ที่มีอาการปวดหลัง

นอนหงายราบกับพื้นเรียบ

เกร็งสะโพก ยกขาเหยียดตรงขึ้นทั้งสองข้าง

บริหารด้วยการแยกขาออก และหุบเข้าอย่างต่อเนื่อง

จำนวนที่น่าจะพอเหมาะก็คือประมาณ 15 ครั้ง

ข้อมูลจาก : เคล็ดลดสัดส่วน 40 ท่าฟิตหุ่นด่วนทันใจ, เอกธิดา, สำนักพิมพ์ไพลิน

40 ท่าลดสัดส่วน ท่าที่ 18

ท่านี้จะช่วยให้บั้นท้ายงามได้รูป เพียงทำวันเว้นวันเท่านั้น

ท่าเตรียม ถือดัมเบลขนาด 1.5 กิโลกรัม ไว้ทั้งสองข้าง

ยืนตัวตรง แยกขาและงอเข่าสักเล็กน้อย

ถือดัมเบลขึ้นมาไว้บริเวณไหล่ กางศอกและแขนพอประมาณ

ค่อยๆ โน้มตัวไปข้างหน้า พร้อมกับลดดัมเบลลงจนลำตัวขนานกับพื้น ทำค้างไว้ 10 วินาที

เกร็งสะโพกค้างไว้ด้วย เสร็จแล้วค่อยๆ โน้มตัวกลับสู่ท่าเตรียม

บริหารให้ได้ 10-12 ครั้งต่อเซต และควรให้ได้วันละ 3 เซต

ข้อมูลจาก : เคล็ดลดสัดส่วน 40 ท่าฟิตหุ่นด่วนทันใจ, เอกธิดา, สำนักพิมพ์ไพลิน

40 ท่าลดสัดส่วน ท่าที่ 17

ท่านี้ช่วยสลายไขมัน บริเวณสะโพกได้ เป็นอย่างดี และได้ผลรวดเร็ว

ท่าเตรียม ยืนตัวตรง แยกขาทั้งสองข้างออกพอประมาณ

ยกเท้าข้างขวาไปด้านหน้าโดยที่ไม่งอเข่า เสร็จแล้วดึงขากลับที่เดิม

บริหารซ้ำแบบช้าๆ อย่างต่อเนื่อง 10 ครั้ง

จากนั้นบริหารแบบเดิม เพียงแต่ยกเท้าออกไปด้านข้าง

และด้านหลังตามลำดับ โดยที่ตั้งตัวตรงไม่เอนเอียง

เมื่อครบตามจำนวนแล้ว ก็เปลี่ยนมาบริหารขาซ้าย

ข้อมูลจาก : เคล็ดลดสัดส่วน 40 ท่าฟิตหุ่นด่วนทันใจ, เอกธิดา, สำนักพิมพ์ไพลิน

40 ท่าลดสัดส่วน ท่าที่ 16

ท่านี้จะช่วยแก้ปัญหาก้นย้อย และไขมันบริเวณสะโพก

ตั้งท่าคลานสี่ขาบนพื้น วางต้นแขน

และฝ่ามือราบลงกับพื้น เกร็งสะโพกเหยียด

ขาขวาออกไปให้สุดพอตึง แล้วกางออกทาง

ด้านข้าง อย่าให้ขางอ เสร็จแล้วดึงกลับ

บริหารต่อเนื่อง 10-15 เที่ยว

จากนั้นก็สลับข้างทำแบบเดียวกัน

ข้อมูลจาก : เคล็ดลดสัดส่วน 40 ท่าฟิตหุ่นด่วนทันใจ, เอกธิดา, สำนักพิมพ์ไพลิน

40 ท่าลดสัดส่วน ท่าที่ 15

อยากมีก้นที่กระชับไม่หย่อนยาน และ

มีขนาดที่สวยเหมาะสมกับรูปร่างแล้วละก็

ต้องไม่พลาดการบริหารท่านี้

ท่าเตรียมคลานสี่ขาบนพื้น วางต้น

แขนและฝ่ามือราบลงกับพื้น

ค่อยๆ ยกขาซ้ายเหยียดออกไปให้สุด

โดยให้ขาตรงไม่งอ และควรเกร็งสะโพกไว้ด้วย

จากนั้นยกขึ้นยกลงอย่างต่อเนื่อง 10-15 ครั้ง

เสร็จครบตามจำนวน ก็สลับขาอีกข้างทำแบบเดียวกัน

ข้อมูลจาก : เคล็ดลดสัดส่วน 40 ท่าฟิตหุ่นด่วนทันใจ, เอกธิดา, สำนักพิมพ์ไพลิน

40 ท่าลดสัดส่วน ท่าที่ 14

ท่านี้บริหารเพื่อกระชับบริเวณและสะโพก

ให้สวยได้รูป ช่วยลดไขมันบริเวณสะโพก

และก้นให้กล้ามเนื้อส่วนนี้กระชับไม่หย่อนยาน

นอนตะแคงด้านใดก็ได้

งอขาล่าง และยืดขาบนให้ตรงที่สุด

ยกขาด้านบนขึ้นลงช้าๆ ให้ได้ 10-15 ครั้ง

จากนั้นหันตะแคงไปอีกด้าน บริหารซ้ำแบบเดิมอีกครั้ง

ข้อมูลจาก : เคล็ดลดสัดส่วน 40 ท่าฟิตหุ่นด่วนทันใจ, เอกธิดา, สำนักพิมพ์ไพลิน

40 ท่าลดสัดส่วน ท่าที่ 13

ท่านี้ช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกิน ที่เอวได้เป็นอย่างดี แถมยังช่วยให้มีเอวที่เข้ารูปอีกด้วย

นอนหงายชันเข่าขึ้นทั้งสองข้าง ประสานมือไว้ที่บริเวณหลังศีรษะ

พยายามเกร็งที่ลำตัว ( คล้ายซิตอัพ) ยกศีรษะและลำตัวขึ้น พร้อมกับบิดไปทางขวาหรือซ้ายก่อนก็ได้ตามแต่ถนัด

ไม่ต้องยกขึ้นมาจนสุดแต่ยกพอให้ช่วงเอวพ้นจากพื้น ยกบิดข้างไว้ 10 นาที

เสร็จแล้วลดลงสู่ท่าแรก แล้วสลับบิดลำตัวไปอีกข้าง บริหารให้ได้ 20 ครั้ง แต่ถ้าปวดหลังขึ้นมาควรหยุดทันที

ข้อมูลจาก : เคล็ดลดสัดส่วน 40 ท่าฟิตหุ่นด่วนทันใจ, เอกธิดา, สำนักพิมพ์ไพลิน

40 ท่าลดสัดส่วน ท่าที่ 12

ท่านี้ช่วยลดไขมันสะสมที่พอกพูนบริเวณข้างลำตัว

ท่าเตรียม คลานสี่ขาบนพื้นเรียบ

บิดไหล่ขวาเข้าหาสะโพกด้านขวา

พร้อมทั้งบิดสะโพกขวาเข้าหาลำตัว

เกร็งค้างไว้ 10 วินาที จากนั้นผ่อนคืนท่าปกติ

สลับข้างทำเช่นเดียวกัน บริหารข้างละ 10 ครั้ง

ข้อมูลจาก : เคล็ดลดสัดส่วน 40 ท่าฟิตหุ่นด่วนทันใจ, เอกธิดา, สำนักพิมพ์ไพลิน

40 ท่าลดสัดส่วน ท่าที่ 11

ท่านี้ช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย บริเวณเอวก็จะมีความยืดหยุ่น

นั่งขัดสมาธิ หลังตรง ยกมือขวาขึ้นให้สุดแล้วเอนไปด้านซ้ายให้มากที่สุด

จนรู้สึกตึงที่ข้างลำตัว ทำค้างไว้สัก 10 วินาที จากนั้นเอนกลับแล้วเอามือลง

ทำซ้ำแบบเดียวกัน แต่เปลี่ยนข้าง บริหารให้ได้ข้างละ 10-15 ครั้ง

ข้อมูลจาก : เคล็ดลดสัดส่วน 40 ท่าฟิตหุ่นด่วนทันใจ, เอกธิดา, สำนักพิมพ์ไพลิน

40 ท่าลดสัดส่วน ท่าที่ 10

ท่านี้จะช่วยลดความหนาของเอว และช่วยให้กล้ามเนื้อข้างลำตัว มีความแข็งแรงขึ้น

นอนหงายกับพื้นราบ และชันเข่าขึ้นทั้ง 2 ข้าง พยายามเกร็งหน้าท้อง (คล้ายซิตอัพ)

ยกตัวขึ้นมาแล้วบิดลำตัวไปแตะที่เข่าซ้าย อย่าเพิ่งบิดลำตัวกลับให้ให้นับ 1-10 ในใจ

ค่อยๆ เอนตัวลงช้าๆ ทำซ้ำข้างเดิม 10 ครั้งสลับข้างบิดลำตัวมาแตะเข่าขวา ทำแบบเดิมอีก 10 ครั้ง

ข้อมูลจาก : เคล็ดลดสัดส่วน 40 ท่าฟิตหุ่นด่วนทันใจ, เอกธิดา, สำนักพิมพ์ไพลิน

40 ท่าลดสัดส่วน ท่าที่ 9

ท่าบริหารนี้มีประสิทธิภาพยิ่งนัก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดและกระชับ

หน้าท้อง ลดไขมันส่วนเกินบริเวณห่วงยาง

นอนหงายราบไปกับพื้น พร้อมทั้งชันเข่าขึ้นทั้งสองข้าง

เหยียดขาซ้ายออก พร้อมกับยกขึ้นจากนั้นยกตัวขึ้นพร้อมกับยืดแขนขวาออก

ไป พยายามจับข้อเท้าซ้ายให้ได้ โดยที่แขนและขาเหยียดตึง

เสร็จแล้วค่อยๆ กลับสู่ท่านอนปกติ บริหารสลับข้างทั้งมือและขาให้ได้ข้างละ 15 ครั้ง

ข้อมูลจาก : เคล็ดลดสัดส่วน 40 ท่าฟิตหุ่นด่วนทันใจ, เอกธิดา, สำนักพิมพ์ไพลิน

40 ท่าลดสัดส่วน ท่าที่ 8

ท่านี้ช่วยให้หน้าท้องไม่มีไขมัน และยังช่วยให้มีกล้ามท้องเล็กๆ อีกด้วย

นอนราบให้แผ่นหลังแนบพื้น มือประสานที่ศีรษะ พร้อมทั้งยกขาเหยียดขึ้นตรง 90 องศา

จากนั้นค่อยๆ ลดระดับลงเพียงเล็กน้อยทั้งสองข้าง แบบช้าๆ พร้อมทั้งเกร็งหน้าท้อง อย่าให้หลังงอและขาต้องตึง

ค่อยๆ ยกขึ้นยกลงช้าๆ ให้ได้ 10-12 ครั้งต่อเซต และควรจะบริหารให้ได้ 3 เซต ต่อครั้ง


ข้อมูลจาก : เคล็ดลดสัดส่วน 40 ท่าฟิตหุ่นด่วนทันใจ, เอกธิดา, สำนักพิมพ์ไพลิน

40 ท่าลดสัดส่่วน ท่าที่ 7

ท่าบริหารนี้จะช่วยให้หน้าท้องตึง และแบนราบ

นอนราบลงกับพื้น ให้แขนอยู่ข้างลำตัว

งอเข่า เกร็งหน้าท้อง ยกศีรษะและไหล่ขึ้น พร้อมกับยกแขนขึ้นลง 5 ครั้ง ( อย่ากลั้นหายใจ)

เสร็จแล้วค่อยๆ ผ่อน บริหารซ้ำให้ได้ 10-15 ครั้ง

ข้อมูลจาก : เคล็ดลดสัดส่วน 40 ท่าฟิตหุ่นด่วนทันใจ, เอกธิดา, สำนักพิมพ์ไพลิน

40 ท่าลดสัดส่วน ท่าที่ 6

ช่วยกระชับกล้ามเนื้อข้างลำตัว ทำให้มีเอวเว้าสมใจ

ยืนตัวตั้งหลังตรง แยกขาออกพอประมาณ

ชูแขนขึ้นเหนือศีรษะให้เหยียดตึงทั้งสองข้าง

เอนตัวไปด้านหลังอย่างอแขน ใช้มือซ้ายแตะเข่าขวาด้านหลัง

จากนั้นเปลี่ยนข้างทำสลับไปมาให้ครบ 20 ครั้ง ต่อ 1 เซต

เพื่อผลที่ดีควรทำอย่างน้อยวันละ 1-2 เซต

ข้อมูลจาก : เคล็ดลดสัดส่วน 40 ท่าฟิตหุ่นด่วนทันใจ, เอกธิดา, สำนักพิมพ์ไพลิน

40 ท่าลดสัดส่วน ท่าที่ 5

ท่าบริหารเพื่อลดเอวให้เว้าสวยงาม

ช่วยลดและเผาผลาญไขมันสะสมบริเวณข้างลำตัว

ยืนตัวตรง หลังตรง แยกขาออกสักเล็กน้อย

ยกมือเท้าเอวทั้งสองข้าง

หมุนสะโพกวนไปทางซ้าย 15 รอบ

หมุนสะโพกวนไปทางขวา 15 รอบ

ทั้งหมดนี้ถือเป็น 1 เซต ควรทำให้ได้ 10 เซตต่อครั้ง

ข้อมูลจาก : เคล็ดลดสัดส่วน 40 ท่าฟิตหุ่นด่วนทันใจ, เอกธิดา, สำนักพิมพ์ไพลิน

40 ท่าลดสัดส่วน ท่าที่ 4

ท่าบริหารนี้จะช่วยกระชับ กล้ามเนื้อไหล่และแขนช่วงบน โดยที่ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ใดๆ เลย

นอนคว่ำราบไปบนพื้นเรียบ

จากนั้นใช้มือทั้งสองข้าง ยึดพื้นไว้ที่ข้างล่างตัวบริเวณช่วงระดับหน้าอก พร้อมกับดันตัวยกลำตัวส่วนบนขึ้นมา

ไขว้ขา 2 ข้างเข้าด้วยกัน ยกพับขึ้นมา

เสร็จแล้ว ยุบตัวลงพร้อมให้กางข้อศอกออกข้างลำตัว แต่ขายังคงพับค้างไว้
บริหารซ้ำให้ได้ 10-15 ครั้งต่อ 1 เซต
อย่างน้อยสัปดาห์หนึ่งควรทำสัก 3 ครั้ง ครั้งละ 3 เซต

ข้อมูลจาก : เคล็ดลดสัดส่วน 40 ท่าฟิตหุ่นด่วนทันใจ, เอกธิดา, สำนักพิมพ์ไพลิน

40 ท่าลดสัดส่วน ท่าที่ 3

ท่านี้จะช่วยกระชับหน้าอกไม่ให้หย่อนคล้อย

จะยืนหรือนั่งก็ได้ แต่ให้หลังตั้งตรง

ยกแขนขึ้นนำมือมาประสานกันที่หน้าอก โดยตั้งศอกให้ขนานกับพื้น

จากนั้นเกร็งมือ บีบมือเขัาหากันเป็นจังหวะ จะรู้สึกว่าหน้าอกขยับ

ทำช้าๆ ให้ได้ 10 ครั้งต่อ 1 เซต

วันหนึ่งจะทำกี่เซตก็ได้ตามสมควร

ข้อมูลจาก : เคล็ดลดสัดส่วน 40 ท่าฟิตหุ่นด่วนทันใจ, เอกธิดา, สำนักพิมพ์ไพลิน

40 ท่าลดสัดส่วน ท่าที่ 2

ท่าที่บริหารเพื่อกระชับแขนให้เรียวงาม รวมทั้งให้หัวไหล่มีความแข็งแรงอีกด้วย

ยืนตัวตั้งตรง แยกขาออกเล็กน้อย

ปล่อยแขนทั้ง 2 ข้างตามสบาย แล้วเหวี่ยงช้าๆ ไปข้างหน้า

จากนั้นเหวี่ยงหมุนชูขึ้นเหนือศีรษะและกลับลงมาข้างล่าง ลักษณะเป็นวงกลม 1 รอบ

เสร็จแล้วทำย้อนจากหลังมาหน้า ทำสลับกันให้ได้ 30 ครั้ง

ข้อมูลจาก : เคล็ดลดสัดส่วน 40 ท่าฟิตหุ่นด่วนทันใจ, เอกธิดา, สำนักพิมพ์ไพลิน

40 ท่าลดสัดส่วน ท่าที่1

เคล็ดลับการออกกำลังกายให้ได้ผลดีที่สุดคือ ต้องเคลื่อนไหวร่างกายอย่างเต็มที่ ยืดขา-แขนให้สุด ยืดตัวหรือบิดตัวให้ตึง การฟิตหุ่นจึงจะได้ผลเต็มที่

การบริหารร่างกายให้ทำทุกวัน วันละ 30-40 นาที

หรือทำวันเว้นวัน วันละ 60 นาที

ท่าที่ 1

ท่านี้ช่วยลดไขมันที่สะสมอยู่ที่บริเวณด้านหลังต้นแขน เพื่อให้ต้นแขนกระชับและแข็งแรงขึ้น
นอนคว่ำบนพื้นราบ

วางมือราบทั้ง 2 ข้างที่ศีรษะ แล้วดันตัวขึ้นโดยปลายเท้ายันที่พื้น

ดันตัวขึ้นเกร็งที่แขนและหัวไหล่ จากนั้นงอแขนผ่อนตัวลงอย่าให้ติดพื้น ( วิดพื้น)

พยายามทำให้ได้สัก 10 ครั้ง ต่อ 1 เซต

ทำวันละ 1-3 เซตก็พอ

ข้อมูลจาก : เคล็ดลดสัดส่วน 40 ท่าฟิตหุ่นด่วนทันใจ, เอกธิดา, สำนักพิมพ์ไพลิน

โปรแกรมควบคุมอาหาร สูตร 2

ตั้งเป้าหมาย 10 วัน
วันที่ 1-3
มื้อเช้า : กินไข่ต้ม 1-2 ฟอง
มื้อกลางวัน : กินก๋วยเตี๋ยวน้ำ
มื้อเย็น : กินสลัดผัก หรือส้มตำ หรือผักจิ้มน้ำพริก ไม่กินข้าว
วันที่ 4-5
มื้อเช้า : กินกล้วย 1 ลูก
มื้อกลาง : กินก๋วยเตี๋ยวน้ำ
มื้อเย็น : กินไข่ต้ม 1-2 ฟอง
วันที่ 5-6 ( ล้างพิษ : Detox)
กินแต่ซุปผักหรือแกงจืดผักทั้งวัน
วันที่ 7-8-9-10
มื้อเช้า : กินแฮมต้ม 2-3 แผ่น
มื้อกลางวัน : กินเกาเหลา 1 ถ้วย ไม่กินข้าว
มื้อเย็น : กินโยเกิร์ต 1 ถ้วย หรือนม 1 กล่อง
ทุกวันถ้าหิวระหว่างมื้อ ให้กินผลไม้และดื่มน้ำเยอะๆ ทั้งวัน และทุกวัน

ข้อมูลจาก : เคล็ดลดสัดส่วน 40 ท่าฟิตหุ่นด่วนทันใจ, เอกธิดา, สำนักพิมพ์ไพลิน

การจัดโปรแกรมอาหารเพื่อลดหุ่นได้ทันใจ

ตั้งเป้าหมายก่อนการจัดโปรแกรมการลดน้ำหนัก แต่ละครั้งควรกำหนดระยะเวลาสั้นๆ เช่น วันที่ 1-5 กินอาหารตามสูตร 1 เพื่อลดน้ำหนักให้ได้ 2-4 กิโลกรัม ต่อไปวันวันที่ 10-15 จะควบคุมอาหารอีกครั้งตามโปรแกรม เพื่อลดน้ำหนักให้ได้อีก 2-4 กิโลกรัม เป็นต้น ถ้าตั้งเป้าระยะยาวอาจใจไม่แข็งพอ

โปรแกรมควบคุมอาหาร สูตร 1
ตั้งเป้าหมาย 7 วัน
วันที่ 1 และ 2
มื้อเช้า : กินไข่ต้ม 1-2 ฟอง
มื้อกลางวัน : กินก๋วยเตี๋ยวน้ำหรือขนมจีน
มื้อเย็น : กินสลัดทูน่า 1 จาน หรือ ผักจิ้มน้ำพริก 1 จาน ไม่กินข้าว
วันที่ 3 และ 4
มื้อเช้า : กินกล้วย 1 ลูก
มื้อกลางวัน : กินเกาเหลาน้ำหรือแกงจืด กินข้าวได้ 1 จานเล็ก
มื้อเย็น : กินฝรั่ง 1-2 ผล หรือ แอปเปิล 1-2 ผล
วันที่ 5-6 และ 7
มื้อเช้า : กินไข่ต้ม 1-2 ฟอง
มื้อกลางวัน : กินแกงจืดผัก 1 ถ้วย ไม่กินข้าว
มื้อเย็น : กินกล้วย 1 ลูก ทุกวันถ้าหิวระหว่างมื้อ ให้กินโยเกิร์ตหรือนม 1 ถ้วย หรือกินส้ม 1 ผล

ข้อมูลจาก : เคล็ดลดสัดส่วน 40 ท่าฟิตหุ่นด่วนทันใจ, เอกธิดา, สำนักพิมพ์ไพลิน

เคล็ดลับควรรู้เพื่อการลดสัดส่วน

การบริหารร่างกายเพื่อลดสัดส่วนนั้นจะได้ผลดี ถ้ามีเทคนิคต่างๆ มาประกอบด้วยจึงจะได้ผลอย่างครบถ้วน และรวดเร็วยิ่งขึ้น มาเรียนรู้เคล็ดลับดีๆ ในบทนี้กันเถอะ

ตื่นนอนตอนเช้าให้ดื่มน้ำเปล่าแก้วโตๆ 1-2 แก้ว แล้วจิบน้ำบ่อยๆ ตลอดวัน เพื่อช่วยเร่งการเผาผลาญและไม่ทำให้รู้สึกโหยหิวบ่อยนัก

กินผลไม้ทุกวันในระหว่างมื้อ เช่น ก่อนถึงมื้อกลางวันให้กินส้ม 1 ผล หลังมื้อกลางวัน 2 ชั่วโมง กินส้ม 1 ผล หรือนมสักกล่องก็ได้

เคลื่อนไหวร่างกายมากๆ เพื่อกระตุ้นการเผาผลาญไขมัน เช่น ขึ้นบันไดแทนการใช้ลิฟต์ เดินเข้าชอยบ้านแทนการใช้รถเป็นต้น

ว่ายน้ำทุก 3 วัน อย่าบริหารร่างกายด้วยท่าลดส่วนต่างๆ แต่เพียงอย่างเดียว หรือเต้นแอโรบิกวันละ 50-60 นาที ทุก 2 วัน

ลดการกินไขมัน เช่น เนย นม หรือ ไขมันต่างๆ ควรกินอาหารที่ไม่ผ่านการแปรรูป เช่น ขนมปังโฮลวีต ข้าวกล้อง เพื่อช่วยให้ร่างกายได้รับเส้นใยและช่วยเรื่องระบบการขับถ่าย กินปลา ถั่วเหลืองและเต้าหู้ ควรงดกินเนื้อสัตวอื่นๆ โดยเฉพาะเนื้อสัตว์ติดมันต้องงด

กินผลไม้แทนขนม อย่ากินอาหารหวานนัก งดของมันและของทอด กินของต้มๆ นึ่งๆ แทน ถ้าอยากกินแกงกะทิให้กินแต่น้อย กินนได้ 1 ครั้งใน 1 สัปดาห์

กินแกงจืดต่างๆ 1 ถ้วย ไม่กินข้าว ใช้สูตรนี้เป็นอาหารกลางวันหรืออาหารเย็นทุกวัน เปลี่ยนแกงจืดต่างๆ ได้หลายเมนู เช่น แกงจืดเห็ดฟาง แกงจืดเต้าหู้วุ้นเส้น ผักกาดขาว แกงจืดฟัก แกงจืดผักปวยเล้งเป็นต้น

ถ้าหิวข้าวหรือต้องใช้พลังงานมาก ให้กินข้าวได้ 1จานเล็ก ไม่จำเป็นต้องกินข้าวทั้ง 3 มื้อ แต่อย่าอด ถ้ากลางวันกินข้าวแล้ว มื้อเย็นควรกินผักหรือผลไม้ จะช่วยให้ลดน้ำหนักได้เร็วขึ้น

นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ถ้าร่างกายแข็งแรง สดชื่น การลดน้ำหนักก็จะเป็นไปได้อย่างสมบูรณ์และถาวร

ข้อมูลจาก : เคล็ดลดสัดส่วน 40 ท่าฟิตหุ่นด่วนทันใจ, เอกธิดา, สำนักพิมพ์ไพลิน

40 ท่าลดสัดส่วน ท่าที่ 38

ท่านี้จะช่วยให้สันหลังยืดตัว และได้เรียวขาที่กระชับเรียวตึงดูสมกับรูปร่าง

อีกด้วย ท่าเตรียม ยืนตัวตรงหันหน้าหากำแพงให้ห่างประมาณ 1 เมตร

ใช้มือทั้งสองข้างยันกำแพงไว้ ก้าวเท้าขวาไปข้างหน้า 1 ก้าว โดยที่หลัง

ยังตรง แล้วค่อยๆ โน้มตัวเข้าหากำแพง โดยเกร็งข้อศอก และส้นเท้ายังคง

ราบติดพื้น ลดตัวลงตำให้มากที่สุด จนรู้สึกตึงที่หลังและน่อง เกร็งค้างไว้

ครั้งละ 20 วินาที จากนั้นสลับข้างทำแบบเดิม ควรทำให้ได้ข้างละ 10 ครั้ง

ข้อมูลจาก : เคล็ดลดสัดส่วน 40 ท่าฟิตหุ่นด่วนทันใจ, เอกธิดา, สำนักพิมพ์ไพลิน

ผักบุ้งจีน (Chinese Water Convolvulus)

ต้นและใบนำมาผัดผักบุ้งไฟแดง ใส่ในสุกี้และก๋วยเตี๋ยว

ผักบุ้งจีนมีเบต้า-แคโรทีนสูง ช่วยบำรุงสายตา มีธาตุเหล็กสูง ช่วยปกกันโรคโลหิตจาง มีแคลเซี่ยม ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน สามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน.

ภูมิแพ้ผิวหนัง

การรักษาโรคภูมิแพ้ผิวหนัง

โรคภูมิแพ้ผิวหนังจะมีลักษณะอาการแบ่งตามระยะเวลาที่โรคได้ 3 ระยะ ระยะแรกเป็นระยะเฉียบพลัน ระยะที่สองเป็นระยะกึ่งเฉียบพลัน จะมีอาการผื่นแดง คันมีน้ำเหลืองไหลเยิ้ม น้ำเหลืองก็จะเริ่มแห้งมีการตกสะเก็ด สะเก็ดจะมีสีน้ำตาลเคลือบอยู่ติดอยู่ที่บริเวณผื่น ผิวหนังก็จะหนาตัวขึ้นเล็กน้อย เป็นนานขึ้นก็จะเข้าสู่ระยะเรื้อรัง ซึ่งระยะนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงของผิวหนังมาก ผิวหนังก็จะมีการหนาตัวขึ้นมาก โดยจะเห็นลักษณะรอยย่นของผิวหนังได้ชัดเจนขึ้น เซลล์ที่ตายไปแล้วก็จะหลุดออกมาเป็นขุยสีขาวๆ ในระยะแรกของระยะเฉียบพลัน เนื่องจากว่ามีน้ำเหลืองไหล ผื่นอาจจะแฉะดังนั้นการประคบโดยใช้อาจจะเป็นน้ำต้มสุก หรือน้ำสะอาดหรือน้ำเกลือประคบเพื่อให้ผื่นแห้งลงจะช่วยได้มาก หลังจากนั้นเมื่อผื่นแห้งลงควรยาในกลุ่มของยาสเตียรอยด์ทา เพื่อลดอาการอักเสบ ส่วนยารับประทานก็จะเป็นยาในกลุ่มลดอาการคัน ระยะเรื้อรังที่มีผิวหนังค่อนข้างหนา ก็อาจจะใช้ยาที่ทำให้ผิวหนังบางลงอาจจะเป็นยาทาในกลุ่มของซาลิซัยลิกเอซิก กลุ่มนี้ก็จะทำให้ผิวหนังบางลงและปรับสภาพผิวให้ดีขึ้น ปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคกำเริบจะแบ่งได้เป็น 2 ปัจจัยหลัก ปัจจัยแรกเป็นภายในตัวของผู้ป่วยเอง เช่น ความเครียด การพักผ่อน ไม่เพียงพอ จะสามารถทำให้โรคกำเริบได้ ปัจจัยที่ 2 จะเป็นปัจจัยภายนอกร่างกาย เช่น อาหาร ส่วนใหญ่ที่แพ้ก็จะเป็นอาหารทะเล ส่วนสารเคมีอื่นๆ เช่น ผงซักฟอก, สบู่, เครื่องสำอาง สุดท้ายก็คือ พวกโลหะหนัก โดยเฉพาะนิเกิล ซึ่งจะผสมอยู่ในเครื่องประดับ และอยากจะเน้นเรื่องการศึกษาเพื่อที่จะทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรคที่เป็นและการดำเนินของโรค ก็จะช่วยลดปัญหาทางด้านผิวหนังและทำให้ผู้ป่วยมีผิวพรรณที่ดีได้.

แพทย์หญิงพัชรินทร์ จันทร์จำรัสแสง

ผักชีไทย (Coriander)

ทำอาหารอะไรบ้าง?
กินเป็นผักสดกับอาหารประเภทลาบ พล่า ก้อย ข้าวเกรียบปากหม้อ สาคูไส้หมู ใช้แต่งอาหารและโรยหน้า แกงจืด ก๋วยเตี๋ยว รากและเมล็ดใช้เป็นเครื่องเทศ ดับกลิ่นคาวและผสมเครื่องแกง

รสชาติ/สรรพคุณ
แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ขับลม เจริญอาหาร ต้มดื่มแก้หวัด อาหารเป็นพิษ ดับกลิ่นคาว ต้มเอาน้ำบ้วนปาก แก้ปวดฟัน กระทุ้งพิษไข้เหือดหัด สุกใส ดำแดง ใช้ขับเหงื่อ ขับพิษ แก้ไฟลามทุ่ง

ข้อมูลจาก : เอ็นพี ฟู๊ด

ผัดกาดหอม (Lettuce)

ทำอาหารอะไรบ้าง?
ใบใช้ตกแต่งจานอาหาร กินเป็นผักสลัดหรือกินกับอาหารจำพวกยำ สาคูใส้หมู ข้าวเกรียบปากหม้อ

รสชาติ/สรรพคุณ
ผักกาดหอมมีแอนติออกซิแดนท์หลายชนิด ช่วยในการป้องกันและต่อต้านมะเร็งได้

ที่มา : เอ็นพี ฟู๊ด

ตั้งครรภ์พึงระวัง !?! ภาวะเสี่ยงใกล้คลอด

สุขภาพดีเป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา ขณะที่โรคร้ายหลากหลายนำมาซึ่งความเจ็บป่วยการสูญเสีย การมีความรู้ความเข้าใจรู้หลักปฏิบัติเตรียมความพร้อมก่อนต้องเผชิญกับความ เจ็บป่วยจึงมีความสำคัญความจำเป็นที่ไม่อาจมองข้ามละเลย

เช่นเดียวกับว่าที่คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ซึ่งต้องรับภาระเพิ่มทั้งการดูแล ตนเอง ดูแลลูกน้อยในครรภ์ ตลอดระยะเวลาการอุ้มท้องทุกช่วงเวลาจากนี้จวบจนถึงการคลอดพบหน้าสมาชิกใหม่ ของครอบครัวจึงมีความหมาย

การดูแลครรภ์ ดูแลสุขภาพเพื่อหลีกไกลจากภาวะความเสี่ยงต่าง ๆ ศาสตราจารย์ นายแพทย์อภิชาติ จิตต์เจริญ ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีมหาวิทยาลัยมหิดลให้ความรู้แนะนำว่า ก่อนการตั้งครรภ์ควรเตรียมตัววางแผนไว้แต่เนิ่น ๆ อีกทั้งการตรวจสุขภาพเตรียมความพร้อมทั้งสามีและภรรยามีข้อดีหลายด้านช่วย คัดกรองไม่ให้เกิดผลเสียไปยังลูกน้อย ทั้งเรื่องของการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ ภาวะเลือดจางจากโรคธาลัสซีเมีย ฯลฯ

การเตรียมความพร้อมที่ดีก่อนการตั้งครรภ์จึงมีความสำคัญ นอกจากนี้หากเกิดการตั้งครรภ์หากทราบถึงการมาของประจำเดือนครั้งสุดท้ายก็ เป็นสิ่งที่ดีมีความจำเป็น ทั้งนี้เพราะประจำเดือนในครั้งสุดท้ายจะถูกนำมาคาดคะเนวันคลอดคร่าว ๆ ทำให้ทราบถึงอายุครรภ์

“การที่ไม่ทราบประจำเดือนครั้งสุดท้ายจะเป็นปัญหาทำให้ไม่อาจทราบการตั้ง ครรภ์ว่าเกิดขึ้นนานเท่าใดซึ่งสิ่งนี้จะมีผลเสียตามมา ทั้งในเรื่องการคลอดก่อนกำหนดโดยไม่จำเป็นหรือการคลอดเกินกำหนดไป อีกทั้งยังส่งผลต่อการวางแผนการดูแลการตั้งครรภ์ อย่างการคลอดเกินกำหนดจะส่งผลต่อเด็ก เด็กจะขาดออกซิเจนในท้อง คลอดออกมาอาจทำให้ตัวเล็ก อาจมีการเสียชีวิตในครรภ์ได้ ฯลฯ”

การดูแลอย่างแรก หลังจากทราบว่าตั้งครรภ์ควรรีบฝากครรภ์แต่เนิ่น ๆ เพราะการฝากครรภ์แต่เริ่มแรกไม่เพียงทำให้ทราบอายุครรภ์อย่างแน่นอน แต่ยังทำให้ทราบถึงภาวะความเสี่ยงต่าง ๆ จากการตั้งครรภ์ได้ร่วมด้วย

เมื่อมีการตั้งครรภ์ถือว่ามีความเสี่ยงเกิดขึ้นแล้วและไม่ว่าจะเป็นการตั้ง ครรภ์ปกติหรือไม่ปกติก็ตาม ในครรภ์ที่ปกติถือว่ามีความเสี่ยงต่ำ แต่หากมีภาวะแทรกซ้อนถือว่ามีความเสี่ยงสูง ในความเสี่ยงที่อาจพบเจอมีทั้งในเรื่อง การแท้งบุตร การตั้งครรภ์นอกมดลูก ครรภ์เป็นพิษ ฯลฯ เหล่านี้ล้วนต่างเป็นความเสี่ยงที่ต้องใกล้ชิดดูแล

การดูแลครรภ์แต่ละช่วงแม้จะมีความแตกต่างกันแต่ก็ต้องใกล้ชิดรู้หลักปฏิบัติ สังเกตความผิดปกติ โดยทั่วไปแบ่งเป็น สามไตรมาส อย่างสามเดือนแรกที่กล่าวมาคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ควรรีบฝากครรภ์ เนื่องด้วยช่วงเวลานี้มีความเสี่ยงเกิดขึ้นหลายด้าน เมื่อมาฝากครรภ์แพทย์จะซักประวัติความเสี่ยงต่าง ๆ อย่างโรคทางกรรมพันธุ์ การตั้งครรภ์ที่ผ่านมามีภาวะแทรกซ้อนอย่างไร ในกรณีมารดาที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีหรือมีอายุมากกว่า 35 ปีถือว่าเป็นการตั้งครรภ์ที่มีความเสี่ยง ช่วงการฝากครรภ์อย่างที่กล่าวจะมีการตรวจร่างกาย ตรวจปัสสาวะ ตรวจเลือดหาหมู่เลือดดูภาวะต่าง ๆ ทั้งโลหิตจาง ตับอักเสบ ฯลฯ เมื่อมีการตรวจดังกล่าวก็จะดูว่าเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงหรือไม่ กรณีที่มี ความเสี่ยงสูงแพทย์จะมีการตรวจเฉพาะมีการดูแลอย่างใกล้ชิดต่อเนื่องไป

พอเข้าสู่ ไตรมาสสอง ภาวะแทรกซ้อนจะน้อยกว่าเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกกับไตรมาสสาม ในไตรมาสนี้ภาวะแทรกซ้อนอย่างที่กล่าวมาอาจมีไม่มาก ถ้าจะมีก็จะเป็นเรื่องของความดันโลหิตสูงอาจจะเริ่มมีบ้างในกรณีที่ครรภ์ เป็นพิษ แต่โดยทั่วไปจะพบน้อยและในไตรมาสนี้ช่วงอายุครรภ์ประมาณ 18-22 สัปดาห์จะมีการอัลตราซาวด์ดูความปกติ ความสมบูรณ์ของเด็ก

จากนั้นพอมาถึง ไตรมาสสาม ภาวะแทรกซ้อนอาจมีเพิ่มขึ้น ในภาวะแทรกซ้อนใกล้คลอดที่มักพบจะมีทั้ง ครรภ์เป็นพิษ ซึ่งมีความอันตรายทั้งแม่และลูก ภาวะครรภ์เป็นพิษในช่วงตั้งครรภ์หากมีอาการปวดศีรษะมาก ตาพร่ามัวจุกแน่นหน้าอกต้องรีบพบแพทย์ทันที

นอกจากนี้ภาวะแทรกซ้อนยังมีในเรื่อง เบาหวานขณะตั้งครรภ์ การคลอดก่อนกำหนด ทารกเติบโตช้า การตั้งครรภ์เกินกำหนด หรือการตกเลือดก่อนคลอด จากภาวะรกเกาะต่ำ ส่วนสัญญาณการคลอดนอกจากการบีบตัวของมดลูกอย่างสม่ำเสมอแล้วการเปิดของปาก มดลูกเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่บอกได้ ในการบีบตัวของมดลูกผู้ที่กำลังตั้งครรภ์สังเกตถึงสิ่งนี้ได้

แต่หากมดลูกบีบตัวนานอาจทำให้เกิดการเจ็บปวดทำให้แม่ต้องทรมานและถ้ากรณีที่ เด็กเติบโตช้าน้ำหนักตัวน้อย การบีบตัวนานอาจทำให้เกิดผลเสียต่อเด็กในครรภ์เสียชีวิตได้ในกรณีที่ทารกขาด ออกซิเจนหรือมีภาวะทารกเติบโตช้า ฯลฯ ตลอด ช่วงระยะเวลาการตั้งครรภ์ การสังเกตดูแลตนเองอยู่เสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญและแม้ว่าแพทย์จะดูแลอย่างเต็ม ที่ แต่ผู้ที่ตั้งครรภ์ก็ต้องไม่ละเลยสังเกตดูแลตนเองด้วยเช่นกัน อย่างการขยับการดิ้นของทารกในครรภ์ต้องสม่ำเสมอ สังเกตได้โดยปกติทารกจะดิ้นไม่น้อยกว่า 10 ครั้งในช่วง 12 ชั่วโมงหากน้อยกว่านี้ควรพบแพทย์เพราะสิ่งนี้เป็นสัญญาณหนึ่งที่บอกถึงความ ผิดปกติ

นอกจากนี้หญิงตั้งครรภ์ต้องพึงระวังเรื่อง น้ำหนัก ซึ่งหากมีน้ำหนักตัวเพิ่มมากเกินไป น้อยไป ก็ไม่เป็นผลดี อย่างน้ำหนักเพิ่มน้อยไปอาจทำให้ทารกในครรภ์ตัวเล็ก ส่วนน้ำหนักแม่เพิ่มมากเกินก็อาจทำให้ครรภ์เป็นพิษ เกิดเบาหวานขณะตั้งครรภ์หรืออาจทำให้เด็กตัวโตเกินทำให้เกิดการ คลอดยากคลอดลำบาก ฯลฯ โดยทั่วไปน้ำหนักไม่ควรเพิ่มเกิน 2-3 กิโลกรัมต่อเดือน

การพักผ่อนที่เพียงพอเป็นอีกสิ่งสำคัญต่อผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ เช่นเดียวกับ การรับประทานอาหารมีประโยชน์ครบ 5 หมู่ จิตใจแจ่มใส ไม่เครียดวิตกกังวล และหากพบสิ่งผิดปกติช่วงใกล้คลอดหรือในขณะตั้งครรภ์ ทั้งภาวะปวดศีรษะบวม ตาพร่ามัว จุกแน่นหน้าอก มีเลือดออกหรือมีความผิดปกติสิ่งใดก็ตามต้องไม่มองข้าม อย่ารอช้าควรรีบพบแพทย์เพื่อลดความเสี่ยงขณะตั้งครรภ์ รวมทั้งยังช่วย กำจัดความเครียดความวิตกกังวลใจมีความหมายถึงการสร้างความปลอดภัยให้กับคุณ แม่และลูกน้อย

สุขภาพดีสิ่งที่ทุกคนปรารถนาไม่ว่าจะเป็นด้านใดหากเคร่งครัดปฏิบัติ ศึกษาดูแลถูกวิธีสิ่งนี้ย่อมเกิดได้.

ดูแลนิ้วมือ...ถือของหนักให้ถูกวิธี

สาว ๆ นักช้อปทั้งหลายที่ยังไม่มีหนุ่ม ๆ แนบกายคอยช่วยถือของต้องระมัดระวังอาการ “นิ้วล็อก” ที่เกิดขึ้นได้จากการใช้งานมืออย่างรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นการบีบกำ หรือหิ้วของหนัก ๆ ซ้ำ ๆ บ่อยครั้ง เพราะจะทำให้ปลอกหุ้มเอ็นบวม หดรัด กลายเป็นพังผืดที่ขาดความยืดหยุ่น ส่งผลให้เส้นเอ็นเคลื่อนตัวผ่านปลอกเอ็นไม่สะดวก เป็นที่มาของอาการนิ้วล็อกในที่สุด

นายแพทย์วิชัย วิจิตรพรกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลเลิดสิน อธิบายถึงอาการนิ้วล็อกว่าเป็นความผิดปกติของมือคนทำงานยิ่งแข็งแรงมากยิ่ง มีโอกาสมาก สามารถพบได้ในแม่บ้านเกือบทุกบ้าน และผู้หญิงมักจะเป็นมากกว่าผู้ชาย 3-4 เท่า เพราะผู้หญิงในเมืองไทยมีการใช้งานของมือรุนแรงซ้ำซากมากกว่าผู้ชาย ตั้งแต่หิ้วของ จ่ายกับข้าวและชอปปิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลไม้ยิ่งถูกยิ่งหิ้วมาก การเตรียมอาหาร การสับไก่ สับกระดูก การทำอาหารใช้มือจับกระทะ ตะหลิว การซักผ้า บิดผ้า ทำงานบ้านต่าง ๆ ล้วนแต่เป็นหน้าที่ของคุณผู้หญิง

อาการที่พบ เริ่มจากเจ็บฐานนิ้ว โคนนิ้วด้านฝ่ามือ นิ้วฝืด สะดุด กำมือหรือ เหยียดมือไม่สะดวก กระเด้ง หรือล็อก นิ้วงออยู่เหยียดไม่ออก หรือนิ้วเหยียดอยู่แต่งอไม่ลง นิ้วอาจบวม โก่งงอ นิ้วเกยกัน แบไม่ออก เจ็บปวด มือไม่มีกำลังมีอาการนิ้วชาร่วมด้วย หากพบว่าเพิ่งจะเริ่มมีอาการ ให้พักมือจากการใช้งานสักระยะ แช่น้ำอุ่นผสมกับการกินยาแก้อักเสบ การทำกายภาพบำบัด ฝึก กำ-แบ ด้วยมือเปล่า สะบัดมือเบา ๆ ให้เป็นการผ่อนคลาย ที่สำคัญนวดฐานนิ้วเบา ๆ จะทำให้ดีขึ้น ถ้าอาการเลวร้ายลงจนเกิดการล็อกของนิ้วมือ อาจต้องฉีดยาสเตียรอยด์เข้าไปเพื่อลดการบวม แต่ไม่ควรฉีดเกินสองครั้ง ถ้ายังไม่หายต้องผ่าตัด

หากเรารู้จักระมัดระวังตัวจะป้องกันได้ เช่น การหิ้วถุง ควรหิ้วถุงให้ถูกวิธี หิ้วให้เต็มฝ่ามือแทนการใช้นิ้วเกี่ยว ใช้ผ้ารอง ใช้รถเข็น รถลาก แน่นอนว่าการทำงานบางอย่างอาจหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ควรประยุกต์ใช้เครื่องทุ่นแรง ใส่ถุงมือ ประยุกต์ด้ามจับอุปกรณ์ให้ใหญ่และนิ่มจะลดความเสี่ยงได้ ถึงแม้เป็นโรคนิ้วล็อก การรักษาตั้งแต่แรกย่อมช่วยชะลอหรือตัดขบวนการที่จะพัฒนาต่อไปจนเป็นขั้น รุนแรงให้สามารถหายได้

นิ้วล็อกเป็นภัยเงียบที่ป้องกันได้ หากพยายามลดความเสี่ยงของการใช้มือผิด ๆ แค่นี้คุณก็จะมีสุขภาพมือที่ดีคู่กับสุขภาพกายที่แข็งแรงไปอีกนาน.

ข้อมูลจาก เดลินิวส์
วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2552

10 พฤติกรรมที่ทำให้สมองฝ่อเร็ว

เขียนโดย นายธรรมรัตน์ กาเด็น
Monday, 20 August 2007
10 พฤติกรรมที่ทำให้สมองฝ่อเร็ว

วันนี้เกร็ดความรู้มี 10 พฤติกรรมที่ทำให้สมองฝ่อเร็วมาบอกกัน...
1. ไม่ทานอาหารเช้า หลายคนคิดว่าไม่ทานอาหารเช้า แล้วจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือด ต่ำ แต่นี่จะเป็นสาเหตุให้สารอาหารไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ ทำให้สมองเสื่อม
2. กินอาหารมากเกินไป การกินมากเกินไปจะทำให้หลอดเลือดแดงในสมองแข็งตัว เป็น สาเหตุให้เกิดโรคความจำสั้น
3. การสูบบุหรี่ เป็นสาเหตุที่ทำให้เป็นโรคสมองฝ่อและโรคอัลไซเมอร์
4. ทานของหวานมากเกินไป จะไปขัดขวางการดูดกลืนโปรตีนและสารอาหารที่เป็น ประโยชน์ เป็นสาเหตุของการขาดสารอาหารและขัดขวางการพัฒนาของสมอง
5. มลภาวะ สมองเป็นส่วนที่ใช้พลังงานมากที่สุดในร่างกาย การสูดเอาอากาศที่เป็น มลภาวะเข้าไปจะทำให้ออกซิเจนในสมองมีน้อยส่งผลให้ประสิทธิภาพของสมองลดลง

6. การอดนอน การนอนหลับจะทำให้สมองได้พักผ่อน การอดนอนเป็นเวลานานจะทำให้เซลล์ สมองตายได้
7. นอนคลุมโปง จะเป็นการเพิ่มคาร์บอนไดออกไซด์ให้มากขึ้นและลดออกซิเจนให้น้อยลง ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของสมอง
8. ใช้สมองในขณะที่ไม่สบาย การทำงานหรือเรียนขณะที่กำลังป่วย จะทำให้ ประสิทธิภาพการทำงานของสมองลดลงเหมือนกับการทำร้ายสมองไปในตัว
9. ขาดการใช้ความคิด การคิดเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในการฝึกสมอง การขาดการใช้ความ คิดจะทำให้สมองฝ่อ
10. เป็นคนไม่ค่อยพูด ทักษะทางการพูดจะเป็นตัวแสดงถึงประสิทธิภาพของสมอง
รู้อย่างนี้แล้วก็หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่กล่าวมาจะดีกว่า เพื่อจะได้มีสมองที่ดี.

โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
Share SHARE
"อโรคยา ปรมาลาภา ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ" บล๊อกนี้จะให้ความรู้เกี่ยวกับการรักษาสุขภาพ ความรู้เกี่ยวกับโรคต่างๆ ตลอดจนแนวทางการรักษา ขอขอบคุณทุกท่านที่มาเยี่ยมชม แนะนำ/ติชม กันได้ที่ payao1971@gmail.com

"I hope you are enjoying good health."