จุดซ่อนเร้นอาจเสี่ยงติดเชื่อรา


ช่องคลอดของอวัยวะสืบพันธุ์เพศหญิง เป็นบริเวณที่เหมาะสมต่อการดำรงชีพของเชื้อราและเชื้อแบคทีเรียนานาชนิด ซึ่งการพบเชื้อดังกล่าวไม่ได้หมายความว่าสตรีรายนั้นเป็นโรค เพราะเชื้อราส่วนใหญ่เป็นเชื้อ Candida albicans ที่สามารถยึดติดกับเซลล์เยื่อบุช่องคล่องได้เป็นอย่างดี และยังสามารถอยู่ในระบบทางเดินอาหารได้โดยไม่ก่อให้เกิดอาการใด ๆ เชื้อดังกล่าวสามารถตรวจพบได้ในอุจจาระถึงร้อยละ 65

ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญของการเกิดโรคคือ ปริมาณไกลโคเจนของน้ำในช่องคลอดและความชื้น พบมากในสตรีมีครรภ์และสตรีที่อยู่ในภูมิประเทศร้อนชื้นสูง ส่วนผู้ที่อยู่ในภาวะเสี่ยง คือผู้ที่ได้รับยาปฏิชีวนะต่อเนื่องเป็นเวลานาน, ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่คุมได้ไม่ดี, ผู้ที่ต้องรับยาสเตียรอยด์ต่อเนื่องเป็นเวลานาน และผู้ที่ติดเชื้อไวรัส เป็นต้น ภาวะดังกล่าวทำให้การกำจัดหรือการลดจำนวนของเชื้อราได้ช้าลง และจะเห็นได้ว่าการอักเสบในช่องคลอดจากเชื้อราพบได้น้อยในเด็กหญิงวัยก่อนมีประจำเดือนและสตรีวัยหมดประจำเดือน

อาการของผู้ติดเชื้อราส่วนใหญ่ จะคันค่อนข้างมากและจะดีขึ้นเมื่อมีประจำเดือน เชื่อว่า เกิดจากความเป็นด่างของเลือดประจำเดือน โดยอาการคันจะครอบคลุมบริเวณฝีเย็บด้วย หากคันเฉพาะบริเวณแคมใหญ่ควรนึกถึงการติดเชื้อราที่ผิวหนัง หรือการติดปรสิตบางชนิด แต่หากคันทั้งในช่องคลอดและฝีเย็บอาจเกิดจากเชื้อชนิดอื่น จึงควรไปพบแพทย์เพื่อแยกโรค ส่วนอาการเจ็บเวลามีเพศสัมพันธ์หรือแสบเมื่อปัสสาวะก็พบได้บ่อย สำหรับอาการตกขาวจะไม่ชัดเจนในบางราย โดยหากมีการตกขาวผู้ป่วยมักจะมีอาการคันนำมาก่อน

อย่างไรก็ตาม หากรักษาความสะอาดแล้ว แต่ยังพบอาการคันผิดปกติ ควรรีบปรึกษาแพทย์

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์, ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต

ไม่มีความคิดเห็น:

Share SHARE
"อโรคยา ปรมาลาภา ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ" บล๊อกนี้จะให้ความรู้เกี่ยวกับการรักษาสุขภาพ ความรู้เกี่ยวกับโรคต่างๆ ตลอดจนแนวทางการรักษา ขอขอบคุณทุกท่านที่มาเยี่ยมชม แนะนำ/ติชม กันได้ที่ payao1971@gmail.com

"I hope you are enjoying good health."