อันตราย! บุหรี่ไฟฟ้าทำร้ายหัวใจ ก่อมะเร็ง


วันนี้ (28 เม.ย.) ที่แพทยสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ในการแถลงข่าวเรื่อง “เตือนภัยบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ เสี่ยงมะเร็ง” จัดโดย ศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ เครือข่ายวิชาชีพสุขภาพเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ผศ.ดร.ศรีรัช ลอยสมุทร คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยสถานการณ์บริโภคยาสูบไฟฟ้าในกลุ่มเยาวชนอายุ 13-18 ปี ว่า ปัจจุบันยาสูบไฟฟ้ามี 3 ประเภท คือ บุหรี่ไฟฟ้า บารากุไฟฟ้า และซิการ์ไฟฟ้า โดยผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้ง่ายมาก เพราะมีช่องทางการจำหน่ายที่ แพร่หลายทั้งในห้างสรรพสินค้า การจำหน่ายผ่านอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะ social network ที่วัยรุ่นนิยม เช่น เฟซบุ๊ก ไลน์ อินสตาแกรม ซึ่งเฉพาะโปรแกรมสนทนา ไลน์ มีผู้ขายกว่า 1,300 ไอดี และยังมีการโฆษณาชวนเชื่อจำนวนมากผ่านช่องทางเหล่านี้ โดยทำเป็นคลิปวิดีโอ ที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าไม่ใช่สินค้าอันตรายด้วย จากการศึกษาสถานการณ์ ทางการตลาดของผลิตภัณฑ์ยาสูบ “แปลงร่าง” จากกลุ่มตัวอย่างอายุ 13-18 ปี 2,426 ราย พบว่า เยาวชน 78% รู้จักบารากุไฟฟ้าเป็นอย่างดี 44% สูบบารากุไฟฟ้า และ 12% สูบบุหรี่ไฟฟ้า ขณะเดียวกัน 42% ก็สูบบุหรี่ธรรมดาด้วย โดย 32% รู้จักบารากุไฟฟ้าจาก social network 67% ซื้อบารากุไฟฟ้าด้วยตัวเอง และ18% ซื้อจากช่องทาง social network เหตุผลของนักสูบเยาวชนส่วนใหญ่ 83% มาจากความเชื่อผิดๆ และรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ที่ หลอกลวง คือ เห็นว่าเป็นสิ่งน่าสนใจแปลกใหม่ เชื่อว่าสูบง่ายกว่าบุหรี่ ปลอดภัย ลองได้ไม่เสพติด

ภก.คฑา บัณฑิตานุกูล เครือข่ายเภสัชอาสาพาเลิกบุหรี่ กล่าวว่า ปัจจุบันถือว่าน่าเป็นห่วงอย่างมาก เพราะมีการเผยแพร่ข้อมูลว่าบุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัยมากกว่าบุหรี่ทั่วไป โดยยกตัวอย่างว่า บุหรี่ปกติมีสารพิษกว่า 6,000 ชนิด แต่บุหรี่ไฟฟ้ามีแค่นิโคติน แต่การศึกษาพบว่า ในบุหรี่ไฟฟ้าจะมีปริมาณนิโคตินที่เข้มข้นสูงกว่าใบยาสูบทั่วไป และไม่สามารถควบคุมปริมาณนิโคตินได้ ซึ่งอันตรายคือนิโคตินจะทำให้อัตราการเต้นหัวใจสูง และอาจส่งผลต่อความดันโลหิต และเมื่อมีการเผาไหม้ สารโพรไพลีน ไกลคอล (propylene glycol) ที่ใช้ในบุหรี่ไฟฟ้า จะเกิดสารตกค้างที่อาจก่อให้เกิ ดมะเร็งได้ และจากงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ยังพบว่า บุหรี่ไฟฟ้าช่วยเลิกบุหรี่ได้ต่ำและงานวิจัยไม่ชัดเจน เพราะกลุ่มตัวอย่างน้อยเกินไป อีกทั้งยังพบว่า แม้จะหยุดสูบบุหรี่ธรรมดาได้ แต่ผู้สูบกลับต้องการบุหรี่ไฟฟ้าในปริมาณที่เพิ่มขึ้น หมายถึงทำให้ติดบุหรี่ไฟฟ้าแทน

ผศ.นพ.สุทัศน์ รุ่งเรืองหิรัญญา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ กล่าวว่า งานวิจัยต่างๆ ชี้ให้เห็นชัดว่าบุหรี่ไฟฟ้าไม่ปลอดภัยต่อสุขภาพเช่นเดียวกับบุหรี่ธรรมดา ซึ่งพบสารก่อมะเร็งหลายๆ ชนิด เช่น ไดเอธิลีนไกลคอล ตะกั่ว แมงกานีส สังกะสี ปรอท สารหนู แคดเมียม ในปริมาณที่สามารถส่งผลเสียต่ อร่างกายได้หากใช้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งงานวิจัยในประเทศสหรัฐอเมริกา ยังชี้ชัดว่า บุหรี่ไฟฟ้าไปทำให้ลดสมรรถภาพปอดและการหายใจได้ เหมือนบุหรี่ทั่วไป และทำให้เซลล์ของมนุษย์เกิดการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมและกลายเป็นเซลล์มะเร็งได้ แม้ได้สัมผัสควันบุหรี่ไฟฟ้าเพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้น นอกจากนี้ ควันของบุหรี่ไฟฟ้ายั งสามารถเกาะที่พื้นผิววัสดุต่างๆ รวมทั้งผิวหนังของมนุษย์ แล้วเกิดปฏิกิริยาต่อเนื่องกับสารพิษหรือมลพิษชนิดอื่นๆ ในอากาศจนเกิดเป็นสารก่อมะเร็งได้ในที่สุด หมายถึงบุหรี่ไฟฟ้าไม่ได้ปลอดภัยแต่งานวิจัยยังไม่มากพอ

น.ส.เศรณีย์ จุฬาเสรีกุล กลุ่มพัฒนาภารกิจกฎหมาย สำนักควบคุมการบริโภคยาสูบ กล่าวว่า การขายบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทยเข้าข่ายเป็นความผิดตามกฎหมายหลายฉบับ กรมควบคุมโรค จึงได้ประสานความร่วมมือกับกรมศุลกากร สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้ บริโภค กรมสรรพสามิต สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อควบคุมกระบวนการนำเข้ ามาในราชอาณาจักร และการแพร่หลายของบุหรี่ไฟฟ้าทางอ้อม คือ 1. ฐานนำหรือพาของที่ยังมิได้เสียค่าภาษี หรือของต้องจำกัด หรือของต้องห้าม หรือที่ยังมิได้ผ่านศุลกากรโดยถูกต้อง เข้ามาในราชอาณาจักรตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 27 2. ฐานช่วยซ่อนเร้น จําหน่าย พาเอาไปเสีย ซื้อ รับจํานํา หรือรับไวโดยประการใด ซึ่งรู้ว่าเป็นของที่ยังมิได้เสียค่าภาษี หรือของต้องจํากัด หรือของต้องห้าม หรือที่เข้ามาในราชอาณาจักร โดยยังมิได้ผ่านศุลกากร หรือโดยหลีกเลี่ยงอากร ตามพ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 27 ทวิ 3. ฐานประกอบธุรกิจตลาดแบบตรง โดยไม่ได้จดทะเบียน การประกอบธุรกิจ ตามพระราชบัญญัติ ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 มาตรา 27 กรณีที่เป็นการจำหน่ายทางเว็บไซต์ และ 4. ฐานขายสินค้าที่ควบคุมฉลากโดยไม่มีฉลาก หรือมีฉลากแต่ฉลากไม่ถูกต้อง ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 มาตรา 30, 31 แต่ทั้งนี้ กรมควบคุมโรค และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำลังหาทางออกร่วมกันในการแก้ไขกฎหมาย ให้ครอบคลุมบุหรี่ไฟฟ้าในทุกมิติต่อไป

รศ.ดร.นิทัศน์ ศิริโชติรัตน์ คณะสาธารณสุข มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า บุหรี่ไฟฟ้าบางชนิดที่ผลิตหรือจำหน่าย โดยมีลักษณะรูปร่างเลียนแบบบุหรี่ ยังถือเป็นการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2535 มาตรา 10 คือ ห้ามมิให้ผู้ใดผลิต นำเข้าเพื่อขาย หรือเพื่อจ่ายแจก เป็นการทั่วไป หรือโฆษณาสินค้าอื่นใดที่มีรูปลักษณะทำให้เข้าใจได้ว่า เป็นสิ่งเลียนแบบผลิตภัณฑ์ยาสูบ ประเภทบุหรี่ซิกาแรต หรือบุหรี่ซิการ์ หากฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท

ผู้จัดการ

ไม่มีความคิดเห็น:

Share SHARE
"อโรคยา ปรมาลาภา ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ" บล๊อกนี้จะให้ความรู้เกี่ยวกับการรักษาสุขภาพ ความรู้เกี่ยวกับโรคต่างๆ ตลอดจนแนวทางการรักษา ขอขอบคุณทุกท่านที่มาเยี่ยมชม แนะนำ/ติชม กันได้ที่ payao1971@gmail.com

"I hope you are enjoying good health."