มาส์กหน้า ด้วยคุณค่าอัศจรรย์จากธรรมชาติ

มาส์กหน้าสวยปิ๊ง ด้วยคุณค่าอัศจรรย์จากธรรมชาติ

กาลเวลาและมลภาวะล้วนเป็นศัตรูตัวฉกาจของผิวสวยสุขภาพดี ทุกวันสาวๆ ทั้งหลายต้องเผชิญกับอากาศร้อน ฝุ่นควัน แสงแดด และกาลเวลาที่ผ่านไปแต่ละวันยังหมายถึงความร่วงโรยของเซลล์ผิวตามอายุอีกด้วยการมาส์กหน้าเพื่อช่วยฟื้นฟูผิวให้ความชุ่มชื่น และถนอมบำรุงด้วยวิตามินพร้อมคุณค่าอันครบครันจึงเป็นสิ่งที่สาวๆ ทุกคนควรทำเป็นประจำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
มาส์กที่มีอยู่โดยทั่วไปก็มีหลากหลายชนิดให้เลือกสรร และคงจะเป็นการดีไม่น้อยถ้าวันนี้เรากลับไปสู่ธรรมชาติ ให้คุณค่าอัศจรรย์จากพืช ผลไม้ และสมุนไพรช่วยปรนนิบัติผิวหน้าอย่างอ่อนโยน

ภ.ญ.ภัชราพร ปิ่นสอาด จากร้านเพื่อสุขภาพและความงามวัตสัน ให้คำแนะนำทางเลือกของผลิตภัณฑ์มาส์กหน้าว่า “...สำหรับสาวๆ ที่ต้องเผชิญกับมลภาวะต่างๆ อยู่ประจำ ควรเลือกมาส์กหน้าจำพวกที่มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระจากพืชธรรมชาติ โดยปกติผิวสามารถซ่อมแซมร่องรอยของความเสียหายอันเกิดจากสารอนุมูลอิสระได้ในขอบเขตที่จำกัด ผิวจึงจำเป็นต้องได้รับการหล่อเลี้ยงมากพอ เพื่อให้เกิดการซ่อมแซมของผิวได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พืชผลไม้ต่างๆ ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณสูงนั้นมีมากมาย แต่ที่โดดเด่นก็หนีไม่พ้น ผลทับทิม มะเขือเทศ และใบชาเขียว”

ผลทับทิม ผลทับทิมนั้นอุดมไปด้วยคุณค่าในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยซ่อมแซมผลกระทบที่เกิดขึ้นจากอนุมูลอิสระที่อยู่ในอากาศ และป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว พร้อมทั้งกระตุ้นพลังแห่งการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ให้ผิวสามารถฟื้นคืนสภาพให้กลับมาดูสว่างใสและเรียบเนียนเหมือนเดิม มะเขือเทศ มะเขือเทศเป็นแหล่งของไลโคพีนที่มากที่สุด ซึ่งมีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระได้ดีกว่าวิตามินซีถึง 35-50 เท่า สารบำรุงที่ได้จากมะเขือเทศจะช่วยให้ผิวไม่เสื่อมโทรม ทำให้ผิวหน้าใสและเรียบเนียน ใบชาเขียว ชาเขียวอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระธรรมชาติเพื่อปกป้องผิวจากริ้วรอยแห่งวัยและมลภาวะ นอกจากนั้นยังช่วยกระชับรูขุมขน และลดการอักเสบของผิวอีกด้วย ผิวที่โดนแสงแดดทำร้ายจนแสบแดง สามารถใช้มาส์กชาเขียวช่วยลดอาการระคายเคืองนี้ได้เป็นอย่างดี

สำหรับสาวๆ ที่ใช้เวลาส่วนใหญ่ในห้องปรับอากาศ และมีปัญหาผิวแห้งเป็นขุย ควรเลือกใช้มาส์กหน้าที่มาช่วยเติมเต็มความชุ่มชื่น และน้ำหล่อเลี้ยงผิวหนัง ภ.ญ.ภัชราพร ปิ่นสอาด ไม่แนะนำให้ใช้มาส์กที่มีส่วนผสมของกรดผลไม้ จำพวกวิตามินซี หรือ เอเอชเอ เพราะจะทำให้ใบหน้าเกิดการระคายเคืองได้ง่าย แนะนำให้ลองมองหามาส์กหน้าที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้ แตงกวา และรังนกแทน เพราะจะสามารถเติมความชุ่มชื่นลงผิวได้เป็นอย่างดี และยังมีสารอาหารและคุณค่าอื่นๆ จากธรรมชาติอีกมากมาย

ว่านหางจระเข้ สารสกัดจากว่านหางจระเข้มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นและเก็บกักน้ำหล่อเลี้ยงใต้ผิวหนังได้ดี สามารถช่วยลดริ้วรอย ทำให้หน้าเนียนใส มันวาว และแลดูเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล นอกจากนั้นยังเป็นตัวช่วยเพิ่มคอลลาเจนให้ผิวได้ด้วยเช่นกัน แตงกวา แตงกวาสามารถเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิวหนัง และช่วยทำให้ผิวหน้าสะอาดขึ้น นอกจากนั้น ยังให้ cooling effect ทำให้รู้สึกเย็นสดชื่น เหมาะสำหรับใช้หลังการออกแดด เพื่อลดความร้อนและอาการแสบแดงของผิวหน้า รังนก รังนกนางแอ่นไม่เพียงให้ประโยชน์ต่อร่างกายเท่านั้น แต่ยังให้สรรพคุณในการดูแลรักษาผิวพรรณ ช่วยทำความสะอาดผิวได้อย่างล้ำลึก พร้อมกระชับรูขุมขน ช่วยบำรุงผิวให้อ่อนกว่าวัย ด้วยการช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และเพิ่มความชุ่มชื่นพร้อมเพิ่มคอลลาเจนให้ผิวเปล่งปลั่งมีสุขภาพดี

นอกจากนี้ยังมีเคล็ดไม่ลับ ถึงวิธีการมาส์กหน้าให้ได้ประโยชน์เต็มที่ เริ่มจากล้างทำความสะอาดใบหน้าให้เรียบร้อยก่อนการมาส์กหน้าทุกครั้ง เพื่อให้สารบำรุงต่างๆ สามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างง่ายดาย เมื่อวางแผ่นมาส์กลงบนผิวหน้า ควรใช้นิ้วค่อยๆ เกลี่ยให้มาส์กแนบติดผิวหน้าของเรามากที่สุด และให้แผ่นมาส์กกระชับกับทุกส่วนของใบหน้า

หลังจากมาส์กหน้าเสร็จแล้ว ควรใช้มือนวดคลึงเบาๆ เป็นวงกลมบนใบหน้า ให้เนื้อครีมกระจายและซึมสู่ผิวได้อย่างทั่วถึง วิธีการนวดควรไล่มาจากหน้าผาก ขมับ มาสู่แก้ม และปลายคาง เว้นรอบดวงตา หลังจากนั้นก็สามารถทาครีมบำรุงหรือเซรั่มต่อได้เลย แผ่นมาส์กที่ใช้เสร็จแล้ว ก็สามารถนำมาทาบบนลำตัว แขน หรือลำคอได้ก่อนจะทิ้ง ควรมาส์กหน้า 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อการดูแลผิวเป็นไปอย่างสม่ำเสมอและได้ประสิทธิภาพ

เพียงเท่านี้สาวๆ ก็จะมีผิวหน้าเนียนสดใสอีกครั้ง

ที่มา - บ้านเมืองออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

Share SHARE
"อโรคยา ปรมาลาภา ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ" บล๊อกนี้จะให้ความรู้เกี่ยวกับการรักษาสุขภาพ ความรู้เกี่ยวกับโรคต่างๆ ตลอดจนแนวทางการรักษา ขอขอบคุณทุกท่านที่มาเยี่ยมชม แนะนำ/ติชม กันได้ที่ payao1971@gmail.com

"I hope you are enjoying good health."